Powered By Blogger

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การปรับพฤติกรรม

1.พฤติกรรม:ขาดแรงจูงใจในการทำงาน


2.แรงจูงใจหมายถึง :  สิ่งซึ่งควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์ อันเกิดจากความต้องการ (Needs) พลังกดดัน (Drives) หรือ ความปรารถนา (Desires) ที่จะพยายามดิ้นรนเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ซึ่งอาจจะเกิดมาตามธรรมชาติหรือจากการเรียนรู้ก็ได้ แรงจูงใจเกิดจากสิ่งเร้าทั้งภายในและภายนอกตัวบุคคลนั้น ๆ เอง ภายใน ได้แก่ ความรู้สึกต้องการ หรือขาดอะไรบางอย่าง จึงเป็นพลังชักจูง หรือกระตุ้นให้มนุษย์ประกอบกิจกรรมเพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหรือต้องการนั้น ส่วนภายนอกได้แก่ สิ่งใดก็ตามที่มาเร่งเร้า นำช่องทาง และมาเสริมสร้างความปรารถนาในการประกอบกิจกรรมในตัวมนุษย์ ซึ่งแรงจูงใจนี้อาจเกิดจากสิ่งเร้าภายในหรือภายนอก แต่เพียงอย่างเดียว หรือทั้งสองอย่างพร้อมกัน


3.ระดับความรุนแรงของพฤติกรรม : 1.ไม่มีจิตใจที่จะทำงาน ไม่มีกำลังใจ
                                              2.ไม่มีความสนใจในเรื่องนั้นๆ
                                              3.ไม่ใส่ใจหรือสนใจแต่เรื่องดังกล่าว


4.เป้าหมาย : ต้องการแรงจูงใจ และต้องการประสบความสำเร็จกับสิ่งที่ต้องการ


5.วิธีการปรับ : 
       5.1 การปรับสิ่งเร้า
           -สิ่งเร้าเดิม :  กางเกง วิทยุ ดีวีดี โทรทัศน์ โต๊ะ ปากกา ดินสอ สมุด ยางลบ ไม้บรรทัด แฟ้ม เสื้อ โทรศัพท์
                            
           -สิ่งเร้าใหม่ : คนรัก เพื่อน
      5.2 ปรับความคิด
           -ความคิดเดิม : ดื่มกิน หงุดหงิด รำคาญ
           -ความคิดใหม่ : ทำให้สำเร็จ ภูมิใจ ดีใจ มีความสุข

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

แบบทดสอบทางจิตวิทยา


แบบทดสอบ : ทดสอบความเครียดด้วยตัวคุณเอง

  1. นอนไม่หลับเพราะคิดมากหรือกังวลใจ

  2. รู้สึกหงุดหงิด รำคาญใจ
  3. ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะประสาทตึงเครียด
  4. มีความวุ่นวายใจ
  5. ไม่อยากพบปะผู้คน
  6. ปวดหัวข้างเดียวหรือปวดบริเวณขมับทั้ง 2 ข้าง
  7. รู้สึกไม่มีความสุขและเศร้าหมอง
  8. รู้สึกหมดหวังในชีวิต
  9. รู้สึกว่าชีวิตตนเองไม่มีคุณค่า
  10. กระวนกระวายอยู่ตลอดเวลา
  11. รู้สึกว่าตนเองไม่มีสมาธิ
  12. รู้สึกเพลียจนไม่มีแรงจะทำอะไร
  13. รู้สึกเหนื่อยหน่ายไม่อยากทำอะไร
  14. มีอาการหัวใจเต้นแรง

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

Transaction Analysis

I’m O.K. You’re not O.K
คือ ตัวเราแน่ คนอื่นแย่ เป็นการพูดหรือการแสดงออกมาครั้งใด ผู้พูดหรือผู้แสดงออกจะอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่า ดีกว่า แต่คู่สนทนาขาดทุน หรือมีความรู้สึกไม่สบายใจทันที เป็นจุดยืนที่ไม่ค่อยไว้เนื้อเชื่อใจใคร มีสภาวะจิตแบบเด็กที่ชอบสงสัย มีความเชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป ไม่ค่อยเป็นมิตร หยิ่งยะโส อหังการ กร่าง ระราน ไม่เปิดเผยจริงใจ ประเมินค่าตนเองสูง ชอบให้ความใส่ใจทางลบ มีความขุ่นเคืองติดอยู่ในใจตลอดเวลา





I’m not O.K. You’re O.K.
คือ ตัวเราแย่ คนอื่นแน่ เป็นการพูดหรือการแสดงออกมาครั้งใด ผู้พูดหรือผู้แสดงออกจะเป็นฝ่ายขาดทุนหรือเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที แต่คู่สนทนาจะได้รับการยอมรับ หรือการได้รับการยกย่อง ได้รับเกียรติ เป็นจุุดยืนที่มีความเชื่อมั่นในตนเองต่ำ ปรับตัวแบบถอยหนี ขาดความมั่นใจ ความคิดริเริ่มน้อย แนวโน้มมีความเครียด



I’m O.K. You’re O.K.
คือ ตัวเราแน่ คนอื่นก็แน่ เป็นการพูดการแสดงท่าทีที่กระทำออกมาครั้งใด ก็ไม่ทำให้ใครเสีย มีแต่ทำให้คนอื่นสบายใจ เป็นลักษณะของความมีสุขภาพจิตดี มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความเป็นมิตร มนุษย์สัมพันธ์สูง บุคลิกน่าเชื่อถือ เปิดใจรับฟังผู้อื่น ถ้าเป็นนักบริหารก็จะแก้ไขปัญหาเก่ง เป็นทั้งผู้ที่ให้และผู้รับที่ดี ให้ความใส่ใจทางบวก


I’m not O.K. You’re not O.K.
คือ ตัวเราก็แย่ คนอื่นก็แย่ เป็นการพูดหรือการแสดงออกมาบางครั้ง หาคนโชคดีไม่ได้เลย เสียความรู้สึกทั้งผู้ฟังและผู้พูด มีสภาวะจิตบกพร่องเป็นผู้แพ้ หมดหนทางจนมุม ขาดพลังใจ มีภาวะกดดัน ไม่กล้าแสดงออก ยึดติดกับความผิดพลาดในอดีต ขาดความคิดริเริ่ม คนขวางโลก รั้น ให้และรับความใส่ใจทางลบ




สรุปว่า :
         เมื่อเกิดปัญหาขึ้นในระดับบุคคล เกิดจากเพื่อนร่วมงาน รุ่นพี่ หรือหัวหน้างาน แต่ละคนก็มีวิธีการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน บางคนก็ใช้ความอดทน บางคนไม่รู้จะทนเพื่ออะไร ก็ระเบิดอารมณ์เข้าใส่กัน บางคนเลือกที่จะหลีกหนีไปให้พ้นจากจุดเกิดเหตุ บางคนก็เลือกใช้วิธีประนีประนอม นุ่มนวล หรือไม่ก็เข้ากลุ่มเป็นพวกด้วย แล้วแต่สถานการณ์จะพาไป

คนที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มที่ใช้ความอดทน เพราะต้องใช้หลายๆ วิธี เข้าข่ม จะเป็นธรรมะ ทำใจ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปิดตา ปิดหู  ไม่สนใจพวกปากหอยปากปู แต่ก็อย่าลืมหาทางที่จะปลดปล่อยบ้าง มิฉะนั้น มันอาจจะระเบิดรุนแรงขึ้นมาก็ได้

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

บุคลิกภาพของคนเรา

Open Area
 Open area เป็นส่วนที่เราจะเปิดเผยต่อผู้อื่นมากที่สุด เป็นพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลต่าง ๆ ที่เราสื่อสารให้ผู้อื่นรับรู้ นั่นคือเรารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ด้วยความมุ่งหมายใด ในขณะเดียวกันผู้อื่นก็ทราบถึงการกระทำและจุดมุ่งหมายของเราอย่างถูกต้องตรงกัน ส่วนนี้จะแคบในกรณีของคนที่ยังไม่รู้จักกันดีพอ เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่รู้จักกันมานานแล้ว 

 
                   

Hiden Area
Hidden area หมายถึง ส่วนทีเป็นความลับซ่อนอยู่ในพื้นทีขนาดเล็ก
โดยที่ผู้อื่นนั้นไม่รู้


                 

Blind Area
Blind area หมายถึง  เป็นจุดบอดไม่สามารถสังเกตได้เหมือนคนตาบอด






Unknown Area
Unknown คือ ที่ไม่รู้ สิ่งที่ไม่รู้, คนที่ไม่เป็นที่รู้จัก, สัญลักษณ์แทนจำนวนที่ไม่ทราบ